ความคิดสร้างสรรค์...สอนได้
โดย อ. ธงชัย โรจน์กังสดาล
“มีดสั้นของข้าพเจ้า ช่างเหล็กธรรมดาใช้เวลาตีเพียงสามชั่วยาม
แต่ตำราอาวุธกลับจัดไว้อยู่ในอันดับสาม” ลี้คิมฮวงใน “ฤทธิ์มีดสั้น”
ผมได้สอนวิชาการคิดเชิงนวัตกรรมหรือ Innovative Thinking ที่จุฬาฯ มาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว และได้มีการพัฒนาเนื้อหาหรือกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในบทความนี้ ผมจะเล่าเทคนิค 4 อย่างในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ที่ผมสอนในห้องเรียน ซึ่งทุกท่านสามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของท่านเองครับ
1. การฟังและการดู
ในภาพยนตร์เรื่อง 2012 มีฉากหนึ่งซึ่งพระธิเบตได้รินน้ำชาจนล้นถ้วยไปหมด ฉากนี้มาจากนิทานเซนเรื่องน้ำชาล้นถ้วย ซึ่งหมายความว่า ถ้าในสมองเราเต็มไปด้วยความคิด ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย แต่ไม่ยอมเปิดรับความคิดใหม่ เราก็ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ได้ เปรียบเหมือน ถ้วยซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชาอยู่แล้ว ก็ไม่สามารถรินน้ำชาใหม่เข้าไปในแก้วได้นั่นเอง ดังนั้นวิธีหนึ่งในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ คือ การออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากศาสตร์ของตนเอง โดยการไปฟังและดูเรื่องราวต่าง ๆ เช่น
ชมนิทรรศการหรือเข้าร่วมฟังบรรยายในงาน สัมมนาต่างๆ ปัจจุบันศูนย์สร้างสรรค์งานออกแแบบหรือ TCDC มีนิทรรศการต่าง ๆที่จัดขึ้นเป็นประจำ และมีห้องสมุดที่มีหนังสือดี ๆ จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการหรืองานบรรยายที่น่าสนใจมากมาย เช่น TEDXBKK , IgniteBKK , Pecha Kucha ซึ่งมีการบรรยายในหัวข้อที่หลากหลาย ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าไปร่วมงานได้ บางงานจะมีการถ่ายทอดสดหรือบันทึกวิดีโอ ทำให้เราสามารถดูย้อนหลังได้จากเว็บไซต์ดังต่อไปนี้ www.tedxbkk.com, www.ignitebangkok.com, www.pecha-kucha.org
ส่วนใหญ่ เรามักชมภาพยนตร์เพื่อความสนุกอย่างเดียว ผมแนะนำว่า ตอนนี้ลองชมภาพยนตร์ในมุมมองใหม่ว่า มีฉากไหนบ้างที่เราได้ข้อคิดที่สามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวัน การทำงานได้บ้างครับ
ชมภาพยนตร์ซึ่งจุดประกายความคิดสร้าง สรรค์หรือสร้างแรงบันดาลใจ ผมขอแนะนำภาพยนตร์ต่อไปนี้ครับ Dead Poets Society , October Sky , Lorenzo’s Oil , Patch Adams และ Bean ครับ ภาพยนตร์เหล่านี้บางเรื่องสร้างมาจากเรื่องจริง บางเรื่องเป็นเรื่องแต่ง แต่ภาพยนตร์เหล่านี้มีเนื้อหาหรือฉากที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความคิดสร้าง สรรค์หรือการพัฒนานวัตกรรมได้ดีมาก
2. การเขียน
เทคนิคนี้ง่ายมากครับ คือ ขอให้มีปากกาและสมุดบันทึกคู่ใจเล่มเล็ก ๆ ติดตัวตลอดเวลา เพราะไอเดียดีๆ นั้นสามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา มีคำกล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์สามารถเกิดได้ใน 3B คือ Bath (ห้องน้ำ) Bed (ห้องนอน) และ Bus (การเดินทาง) เพราะเรามักผ่อนคลายในสถานที่เหล่านั้น ทำให้เกิดปิ๊งความคิดดี ๆ ขึ้นมา แต่ถ้าเราไม่รีบจดไอเดียเหล่านั้นแล้วล่ะก็ มันจะหายไปในพริบตาได้เช่นกัน
ถ้าเรามีความคิดหรืออยากบอกเล่าเรื่อง ราวต่าง ๆ ให้คนอื่นรับทราบ ก็สามารถเขียนใน blog เพื่อเผยแพร่ให้คนอื่นทราบได้ นิสิตในวิชาของผมจะต้องทำ blog ทุกคนเพื่อบันทึกเนื้อหาที่เรียนมาในแต่ละครั้ง และบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ เนื่องจาก blog สามารถใส่รูปภาพหรือคลิปวิดีโอได้ เราควรมีกล้องถ่ายรูปติดตัวเสมอซึ่งทำได้ง่ายมากเพราะโทรศัพท์มือถือส่วน ใหญ่สามารถถ่ายรูปได้อยู่แล้ว ดังนั้นเวลาที่เราพบเหตุการณ์หรือสิ่งน่าสนใจ ก็สามารถถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเล่าใน blog หรือเก็บเป็นข้อมูลสำหรับใช้ในอนาคตได้ครับ
3. การเล่น
เราควรหางานอดิเรกที่ฝึกใช้ทั้งสองมือได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะการใช้มือได้อย่างคล่องแคล่วจะช่วยทำให้สมองพัฒนาด้วย เนื่องจากมือเปรียบเสมือนสมองที่งอกออกมา ในแพทย์แผนจีนจะมีการกล่าวถึงเส้นประสาทลมปราณของแต่ละอวัยวะซึ่งเชื่อมโยง กับแต่ละนิ้ว ดังนั้นการบริหารนิ้วจะมีผลต่ออวัยวะภายในของร่างกายด้วยกิจกรรมที่ฝึกความคล่องคล่องของมือมีหลายอย่าง เช่น การควงปากกา การโยนลูกดิ่งโยโย การหมุนรูบิค ในวิชาของผม ผมจะสอนการโยนลูกจักกลิ้ง (juggling) ซึ่งเป็นการโยนลูกบอล 3 ลูกแล้วรับอย่างคล่องแคล่ว ประโยชน์ของการโยนจักกลิ้งมีหลายอย่างเช่น ฝึกการใช้ทั้งสองมือให้ทำงานได้คล่องแคล่ว ฝึกสมาธิเพราะการโยนจักกลิ้งจะต้องจดจ่อกับการโยน และฝึกความคิดสร้างสรรค์ในการหาท่าโยนจักกลิ้งแบบใหม่
การโยนจักกลิ้งเป็นทักษะที่ทุกคน สามารถฝึกฝนได้ ไม่ใช่พรสวรรค์พิเศษของนักมายากลหรือนักเล่นละครสัตว์แต่อย่างใดครับ ปัจจุบันใน Youtube มีคลิปวิดีโอสอนการโยนจักกลิ้งมากมาย ซึ่งเราสามารถดูและฝึกฝนด้วยตัวเองได้ ท่านผู้อ่านสามารถหาซื้อลูกจักกลิ้งได้ที่ถนนข้าวสารครับ
4. ความเชื่อมั่น
นิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคือ “ฤทธิ์มีดสั้น” ซึ่งประพันธ์โดยโกวเล้ง ตัวเอกในเรื่องฤทธิ์มีดสั้นคือลี้คิมฮวง มีดบินไม่เคยพลาดเป้า ถึงแม้ว่าลี้คิมฮวงจะใช้อาวุธคือมีดสั้นธรรมดา แต่มีฝีมือสูงส่งอยู่ในอันดับสามของยุทธจักร ดังข้อความที่ยกมาในตอนต้นของบทความ ผมคิดว่านิยายเรื่องนี้บอกอุปมาอุปไมยที่ดีในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ เช่นกัน นั่นคือ ปัจจัยสำคัญที่สุดในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่สิ่งภายนอก (เปรียบเสมือนอาวุธที่เหล่าจอมยุทธใช้) แต่เป็นสิ่งภายในที่อยู่ในตัวเรา (เปรียบเสมือนกำลังภายในหรือวิทยายุทธของตนเอง)
ดังนั้นขอให้เราจงเชื่อมั่นตัวเองเสมอว่า เรามีความคิดสร้างสรรค์ชั้นเยี่ยม ไม่ว่าเราจะขาดแคลนต้นทุนภายนอกอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าต้นทุนภายในของเราคือ ความเชื่อมั่นในความสามารถและศักยภาพของตนเองเต็มแล้ว เราจะมีหนทางเสมอในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
สรุป
ปัจจุบันโลกได้เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เราจะได้ยินศาสตร์ใหม่ ๆ มากขึ้น รูปแบบการทำธุรกิจแบบดั้งเดิมจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในยุคที่มีการเปลี่ยน แปลงและแข่งขันอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับทุกคน ในการทำธุรกิจ ขอให้พวกเราทุกคนพูดกับตัวเองดังๆ ว่า ฉันมี ความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม และทำความฝันให้เป็นความจริงกันเถอะ ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น